เกี่ยวกับเรา

มูลเหตุแห่งการสร้าง

มูลเหตุ

พ.ศ. 2541 พระมหาเถระซิงหวินได้เดินทางไปถ่ายทอดตรีฐานมหาศีล ณ พุทธคยา ประเทศอินเดีย ขณะนั้น Kunga Dorje Rinpoche แห่งทิเบต มีความซาบซึ้งต่อทางวัดฝอกวงซาน ที่ได้ส่งเสริมวัฒนธรรมพุทธศาสนาจีน-ทิเบตมาเป็นเวลานาน ทั้งยังจัดตั้งสมาคมวัฒนธรรมจีน-ทิเบต การประชุมพุทธศาสนานิกายเปิดและนิกายปิด และก่อตั้งมูลนิธิแสงพุทธธรรมสากล เป็นต้น อันเป็นการส่งเสริมพุทธศาสนาแห่งมวลมนุษยชาติให้เจริญรุ่งเรืองอย่างตรงไปตรงมา จึงได้ถวายพระบรมสารีริกธาตุ(พระทนต์) ที่รักษาไว้เกือบ 30 ปีแด่พระมหาเถระซิงหวิน เพื่อจะได้สร้างสถานที่สักการะไว้ที่ประเทศไต้หวัน ให้พระบรมสารีริกธาตุนี้ได้เปล่งรัศมี และพระสัทธรรมได้คงอยู่นิรันดร

อนุสรณ์สถานพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้วางศิลาฤกษ์เมื่อ พ.ศ. 2546 ใช้เวลาก่อสร้าง 9 ปีจึงแล้วเสร็จในวันที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2554 พระมหาเถระซิงหวินกล่าวว่า “พระพุทธองค์มิได้ต้องการให้พวกเรามากราบไหว้ แต่สรรพสัตว์ทั้งหลายต้องการอาศัยสิ่งนี้เพื่อชำระจิตใจให้บังเกิดกุศลจิต ต้องการสัมผัสถึงพระธรรมกายผ่านการถวายสักการะพระสถูป ดำเนินชีวิตประจำวันตามอย่างพระธรรมคุณด้วยจิตที่นอบน้อม พระพุทธองค์มิได้ต้องการรัตนเจดีย์ หากแต่สรรพสัตว์นั่นเองที่ต้องการ ดังนั้นอาตมาจึงสร้างรัตนเจดีย์ขึ้นตามคำนี้ ”

 

แนวคิดการสร้างอนุสรณ์สถาน

พระมหาเถระซิงหวินกล่าวว่า “ อนุสรณ์สถานพระสัมมาสัมพุทธเจ้าคือการสร้างสรรค์ทางประวัติศาสตร์ และจิตใจของมนุษย์ อนุสรณ์สถานนี้เป็นของมหาชนขอเพียงให้มีคนต้องการ ไม่ว่าผู้ใดก็สามารถเข้าถึงได้ ที่แห่งนี้เป็นทั้งวัฒนธรรม การศึกษา ไม่ว่าจะเป็นบุคคล ครอบครัว โรงเรียน องค์กรหรือคณะบุคคล ก็สามารถมาเชื่อมสัมพันธ์และศึกษาร่วมกันได้ ”

 

เป้าหมายในการพัฒนา

  • พัฒนาพุทธศาสนาให้เจริญผ่านศิลปะวรรณคดี
  • พัฒนาพุทธศาสนาให้เจริญผ่านสื่อภาพยนตร์
  • พัฒนาพุทธศาสนาให้เจริญผ่านเรื่องราวของมนุษยชาติ
  • พัฒนาพุทธศาสนาให้เจริญผ่านการขับเคลื่อนของนานาชาติ
  •  

    ภารกิจของอนุสรณ์สถานพระสัมมาสัมพุทธเจ้า

  • พระตำหนักใต้ดิน 48 ห้อง : เพื่ออนุรักษ์อารยธรรมทางปัญญาของมนุษย์ให้คงอยู่ และบันทึกไว้เป็นประวัติศาสตร์
  • ให้ความรู้ในการดำเนินชีวิต : ส่งเสริมความรู้ในการดำเนินชีวิตผ่านศิลปะและวัฒนธรรม รวมถึงการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
  • การแลกเปลี่ยนของทั้งสองฝั่ง : ส่งเสริมการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรมของประเทศจีนและไต้หวันเพื่อให้กลับมารุ่งเรืองอีกครั้ง
  • ศิลปะทางพุทธศาสนา : จัดนิทรรศการศิลปะทางพุทธศาสนา และเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นทางวิชาการ
  • บริการสาธารณะ : เคารพและให้อภัยต่อกัน ร่วมกันใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เป็นประโยชน์ ให้การช่วยเหลือกันและกัน
  •